
SCGD เร่งเครื่องลงทุนพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีดิจิทัล ลดต้นทุน เสริมศักยภาพแข่งขันในอาเซียน ย้ำการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด เสริมสร้างผลกระทบเชิงบวก สังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งองค์กร พร้อมเดินหน้าสู่เป้าลดคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2593
นำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ประกาศเดินหน้าเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 อย่างจริงจัง พร้อมเสริมแกร่งธุรกิจด้วยการลงทุนด้านพลังงานสะอาด และการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ มาช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยในปี 2567 SCGD สามารถ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้แล้ว 35% เทียบปีฐาน 2563
SCGD ใช้ 2 กลยุทธ์หลัก ขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย ได้แก่ พลังงานสะอาด + ดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม โดยแยกเป็นการ
- การลงทุนโครงการพลังงานทดแทน – ขยายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และชีวมวล (Biomass) ครอบคลุมฐานการผลิตทั่วอาเซียน
- ปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและอัตโนมัติ – เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และยกระดับการบริหารจัดการ

งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทในปี 2568
SCGD วางแผนเตรียมทุ่มงบ 2,000 ล้านบาท ในปี 2568 โดยกว่า 1,500 ล้านบาท จะใช้ในโครงการพลังงานสะอาดและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน และเพิ่มความสามารถแข่งขันในระยะยาว โดยในปี 2567 จากการลงทุนพลังงานทดแทน สามารถลดต้นทุนได้กว่า 300 ล้านบาท/ปี ส่วนโครงการใหม่ครึ่งแรกปี 2568 คาดลดเพิ่มอีก 36 ล้านบาท/ปี
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ ลดต้นทุนรวมได้กว่า 60 ล้านบาท/ปี
นำพล ระบุว่า “การลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 35% เกิดจากการวางแผนระยะยาว และการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ซึ่งจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน”

ขยายพลังงานสะอาด เพิ่มสัดส่วน Biomass
ในครึ่งแรกปี 2568 SCGD ยังได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่มรวม 41.4 เมกะวัตต์ คิดเป็น 12% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด และเพิ่มสัดส่วนพลังงานชีวมวลเป็น 22% ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 46% ภายในปี 2573 ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดความผันผวนต้นทุน
SCGD มุ่งขยายการผลิตและการลงทุนด้านพลังงานสะอาดในอาเซียน โดยเฉพาะ เวียดนาม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้าน ESG ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าทั่วโลกให้ความสำคัญ ปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 36% ของรายได้รวม
นวัตกรรมลดคาร์บอน–ปรับธุรกิจด้วยดิจิทัล
SCGD นำ Biomass Gasifier ติดตั้งในโรงงานเวียดนาม ลดการใช้ถ่านหิน และวางแผนขยายไปฐานการผลิตอื่น รวมทั้งใช้เทคโนโลยี One WMS บริหารคลังสินค้า และระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิต เช่น ตรวจสอบคุณภาพ แพ็คกระเบื้อง พ่นเคลือบสี ช่วยลดต้นทุนรวมกว่า 60 ล้านบาท/ปี
นอกจากนี้ ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เช่น สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ กระเบื้องรีไซเคิล วัสดุปูพื้น SPC แบบ non-firing และรีไซเคิลของเสียจากการผลิต
จากความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม SCGD ได้รับการจัดอันดับ ESG Rating ระดับ A ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Propcon) ประจำปี 2567 สะท้อนถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบขององค์กร
