
AIS ร่วมมือ บาร์บีคิวพลาซ่า เปิดแคมเปญ “อุ่นใจรักษ์โลก x น้องกะหล่ำ” กระตุ้นคนไทย แยกทิ้ง ขยะอิเล็กทรอนิกส์ อย่างถูกวิธี เร่งขยายจุดรับทิ้ง E-Waste กว่า 38 สาขาทั่วประเทศ เพื่อสร้างพฤติกรรมรักษ์โลกง่าย ๆ ใกล้ตัวทุกคน พร้อมช่วยยืดอายุโลกให้ยั่งยืนและดูแล “น้องกะหล่ำ” สัญลักษณ์เมนูโปรดของคนไทยให้ไม่หายไปจากโต๊ะอาหาร
สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ AIS เผยว่า ความยั่งยืนและการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์คือภารกิจสำคัญของ AIS ภายใต้แคมเปญ ‘สัญญาณยืดเวลาโลก’ (Signals of Sustainable Future) เราจับมือกับบาร์บีคิวพลาซ่า สร้างจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ที่เข้าถึงง่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทิ้งขยะอย่างถูกวิธี เพิ่มความสะดวกให้คนไทยเข้าร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมกันนี้ AIS ยังนำเสนอคอนเทนต์สร้างสรรค์ร่วมกับ “น้องกะหล่ำ” กระตุ้นให้ทุกคนตระหนักว่าปัญหาขยะ E-Waste ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะสารพิษในขยะเหล่านี้อาจปนเปื้อนสู่ดิน น้ำ และอาหาร ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

จรูญโรจน์ เทพที ประธานบริหารสายงานซัพพลายเชน บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า บาร์บีคิวพลาซ่าให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เราเน้นลดขยะอาหารและส่งเสริมการแยกขยะอย่างถูกวิธี ภายใต้แนวคิด ‘Small But Meaningful’ เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ทุกคนร่วมมือกันทำจะสร้างผลกระทบเชิงบวกได้จริง
“การร่วมมือกับ AIS ในแคมเปญ ‘อุ่นใจรักษ์โลก x น้องกะหล่ำ’ ถือเป็นก้าวสำคัญที่เราตั้งใจทำให้ลูกค้าและพนักงานได้มีส่วนร่วมในการจัดการ E-Waste อย่างถูกต้อง โดยสาขาบาร์บีคิวพลาซ่ากว่า 38 แห่งทำหน้าที่เป็นจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ใกล้ตัวคนไทย
“นอกจากนี้ เรายังใช้เมนูสุดฮิต ‘สุกี้แห้งหมูสามชั้นทอดกะหล่ำกรอบ’ มาเป็นสัญลักษณ์เตือนใจว่า หากไม่เริ่มดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วันนี้ วัตถุดิบและรสชาติอาหารที่เรารักอาจหายไป เพราะพิษจาก E-Waste จะส่งผลเสียต่อพืชผักอย่างกะหล่ำปลี และสุขภาพของเราทุกคน”

วิธีร่วมแคมเปญง่าย ๆ
เพียงนำสายชาร์จ แบตเตอรี่ หูฟัง หรือโทรศัพท์มือถือที่ไม่ใช้งานแล้ว มาทิ้งที่จุดรับ E-Waste หน้า ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า 38 สาขาทั่วประเทศ หรือที่จุดรับของ AIS และพันธมิตรกว่า 3,000 จุดทั่วประเทศ
มั่นใจได้ว่า E-Waste ทุกชิ้นจะได้รับการจัดการและรีไซเคิลอย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน E-Waste Zero to Landfill ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคืนทรัพยากรสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างแท้จริง
ร่วมกัน #Saveน้องกะหล่ำ เพื่อรสชาติที่ดีของวันพรุ่งนี้ และช่วย “ยืดเวลาโลก” ให้เราและคนรุ่นหลังได้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
