เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก จับมือ เป๊ปซี่โค เปิดตัวโครงการระดับโลก “Food for Tomorrow” ขับเคลื่อน เกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู – Regenerative Agriculture ผ่านพลังของวิทยาศาสตร์ เรื่องเล่า และการศึกษา หวังสร้างแรงบันดาลใจให้โลกเห็นว่า “ระบบอาหารที่ยั่งยืน” สามารถหล่อเลี้ยงทั้งผู้คนและโลกไปพร้อมกันได้
ในวันที่โลกกำลังเผชิญวิกฤติสิ่งแวดล้อมอย่างหนักหน่วง ตั้งแต่การเสื่อมโทรมของดินจนถึงความไม่มั่นคงทางอาหาร — “เกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู” (Regenerative Agriculture) กำลังกลายเป็นคำสำคัญของอนาคต เพราะนี่ไม่ใช่แค่แนวทางการผลิตอาหาร แต่คือ การคืนชีวิตให้กับโลก
ล่าสุด สมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (The National Geographic Society) จับมือกับบริษัท เป๊ปซี่โค (PepsiCo) เปิดตัวโครงการระดับโลก “Food for Tomorrow” เพื่อขับเคลื่อนแนวทางเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูผ่านพลังของวิทยาศาสตร์ เรื่องเล่า และการศึกษา หวังสร้างแรงบันดาลใจให้โลกเห็นว่า “ระบบอาหารที่ยั่งยืน” สามารถหล่อเลี้ยงทั้งผู้คนและโลกไปพร้อมกันได้

“เกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู”กุญแจสำคัญในการฟื้นคืนชีวิตให้โลก
องค์การยูเนสโก (UNESCO) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 ดินกว่า 90% ของโลกอาจเสื่อมโทรม หากเรายังใช้แนวทางการเกษตรแบบเดิม ขณะที่ประชากรโลกจะพุ่งแตะ 10,000 ล้านคน — คำตอบจึงไม่ใช่การผลิตให้มากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่คือการ ฟื้นฟูระบบนิเวศทางการเกษตร ให้กลับมาแข็งแรง
“เกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู” จึงเป็นแนวทางที่เน้น การทำงานร่วมกับธรรมชาติ ไม่ใช่สวนทางกับธรรมชาติ โดยมุ่งฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ระบบอาหารของโลกมีความยั่งยืนอย่างแท้จริง
จาก “ผู้พิทักษ์ผืนดิน” สู่สายตาทั่วโลก
โครงการ “Food for Tomorrow” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเกษตรกร นักวิทยาศาสตร์ และชุมชนท้องถิ่น ผ่านเลนส์ของนักสำรวจ (Explorer) จาก National Geographic โดยหนึ่งในนั้นคือ Pablo Albarenga ที่จะเดินทางมายังประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อบันทึกเรื่องราวของ วิสา หลักคำปา เกษตรกรหญิงจากจังหวัดขอนแก่น ผู้ลุกขึ้นมาฟื้นฟูสวนมะพร้าวของตนจากพื้นที่เกษตรเชิงเดี่ยวให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ ได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงวิธีที่แนวทางเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้กับผืนดิน ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของคุณวิสาในการแบ่งปันความรู้สู่เกษตรกรรายอื่น ๆ ทั่วประเทศ สามารถติดตามชมเรื่องราวของเธอได้ที่นี่

เรื่องราวของเธอถูกถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์สั้นโดย National Geographic CreativeWorks ร่วมกับ PepsiCo เพื่อสะท้อนพลังของเกษตรกรหญิงไทยในฐานะ “ผู้พิทักษ์ผืนดิน” ที่ใช้เกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูเป็นเครื่องมือสร้างความยั่งยืนให้ทั้งชีวิตและสิ่งแวดล้อม
ความร่วมมือที่สร้างอนาคตใหม่ของอาหารโลก
จิล ทีเฟนธาลเลอร์ (Jill Tiefenthaler) ซีอีโอ สมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก กล่าวว่า
“อนาคตของเราจะถูกกำหนดด้วยวิธีการผลิตอาหารในวันนี้ เมื่อระบบอาหารสามารถหล่อเลี้ยงทั้งผู้คนและโลกได้อย่างสมดุล เราก็จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้คนรุ่นต่อไป”

ด้าน รามอน ลากัวร์ตา (Ramon Laguarta) ซีอีโอ เป๊ปซี่โค เสริมว่า
“เกษตรกรคือด่านหน้าของวิกฤติภูมิอากาศ และเราต้องร่วมกันสร้างระบบอาหารที่แข็งแกร่งกว่าเดิม Food for Tomorrow คือการรวมพลังของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และแรงบันดาลใจ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและอนาคตของทุกคน”
เป๊ปซี่โคยังตั้งเป้า ขยายแนวทางเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูในพื้นที่กว่า 10 ล้านเอเคอร์ทั่วโลกภายในปี 2030 เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

ฟื้นฟูโลกด้วยข้อมูล วิทยาศาสตร์ และความร่วมมือ
ในระยะถัดไป โครงการจะมอบ ทุนวิจัยด้านวิทยาศาสตร์จำนวน 5 ทุน เพื่อสนับสนุนผลงานที่สามารถต่อยอดการประยุกต์ใช้แนวทางเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูได้จริง พร้อมพัฒนา แผนที่ข้อมูลเชิงภาพ (Dynamic Data Visualization Map) เพื่อสื่อสารบทบาทของเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูต่อความยืดหยุ่นของระบบอาหาร โดยจะเปิดให้เข้าถึงผ่านเว็บไซต์ของ National Geographic ภายในปี 2026
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู ติดตามผลงานของนักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก รวมถึงชมเรื่องราวที่จะเปิดเผยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ สามารถเยี่ยมชมได้ที่นี่

“Food for Tomorrow” ไม่ใช่แค่โครงการระดับโลก แต่คือ การเรียกร้องให้ทุกคนตระหนักถึงพลังของอาหาร ดิน และธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง เพราะทุกเมล็ดพันธุ์ที่งอกขึ้นจากผืนดิน คือความหวังใหม่ของโลกใบนี้

