
กสิกรไทยเร่งเครื่องสู่ “ธนาคารเพื่อความยั่งยืน” ตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน Climate ที่ครอบคลุมที่สุด พร้อมอัดฉีดเม็ดเงิน 4-5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ธนาคารกสิกรไทย (KBank) กำลังเดินเกมใหม่ด้วย ยุทธศาสตร์ความยั่งยืนแบบองค์รวม (Issue-based Strategy) ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่กรอบ ESG แต่เชื่อมโยงทุกประเด็นสำคัญเพื่อสร้าง “ผลกระทบเชิงบวก” ให้ลูกค้า ธุรกิจ และสังคม
กสิกรย้ำ “เราต้องเดินไปด้วยกัน”
จงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดใจกับสื่อว่า ปัจจัยที่ไทยกำลังเผชิญไม่ใช่เรื่องเล็ก ตั้งแต่ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนสูง ไปจนถึงกฎการค้าคาร์บอน (EU CBAM) ที่จะส่งผลต่อการส่งออกหลายหมื่นล้านบาท “หากธุรกิจไม่ปรับตัว โอกาสแข่งขันจะหายไป แต่ถ้าเราขยับก่อน นั่นคือข้อได้เปรียบ”

กสิกรไทยจึงเลือก ขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วย Issue-based Strategy ที่มี 3 แกนหลักคือ
1. การเป็นธนาคารที่ทุกคนเชื่อมั่น (Trusted Bank)
2. การเสริมความยืดหยุ่นพร้อมก้าวสู่อนาคตร่วมกัน (Future-Ready Resilience)
3. การสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมและทั่วถึง (Inclusive Growth)

ไม่หยุดแค่ “การเงิน” แต่ส่งมอบ “ความรู้และเครื่องมือ”
“เราไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้สินเชื่อ แต่เป็นพันธมิตรที่ช่วยลูกค้าสร้างความแข็งแรง” จงรัก กล่าว พร้อมยกตัวอย่างโครงการสินเชื่อสีเขียว, การสนับสนุน EV, การเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ไปจนถึงการผลักดันการลงทุนที่ยั่งยืน ผ่าน KAsset ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดในกองทุน ESG และ SRI
นอกจากนี้ ธนาคารยังเดินหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพ เช่น K SME Care, KATALYST, SKILLKAMP ที่ช่วยทั้ง SME และคนรุ่นใหม่ให้พร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

สู่เป้าหมาย “Net Zero” และ Climate Solution ที่ครอบคลุม
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการปรับเพิ่มเป้าหมาย เม็ดเงินเพื่อความยั่งยืน จาก 2 แสนล้านบาท สู่ 4-5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 โดยปัจจุบันได้ปล่อยสินเชื่อและการลงทุนด้านนี้แล้วกว่า 173,000 ล้านบาท ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 2.74 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
“เราตั้งเป้าจะเป็น The Most Comprehensive Climate Solution Provider หรือผู้ให้บริการโซลูชันด้านสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุมที่สุด” ผู้จัดการใหญ่ย้ำ พร้อมกล่าวว่า กสิกรไทยไม่ได้หยุดที่การเงิน แต่ยังลงทุนใน Beyond Banking Solution เช่น แพลตฟอร์ม KClimate1.5 สำหรับการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก, Green Pass สำหรับ RECs และเครือข่าย Thai CBN ที่รวมภาคธุรกิจ 34 องค์กร เพื่อร่วมผลักดันการเปลี่ยนผ่านประเทศ

ความร่วมมือคือหัวใจ
จงรัก กล่าวว่า ความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่ใครทำคนเดียวได้ เราต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และสังคม เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้ทุกชีวิตและทุกธุรกิจเดินหน้าผ่านพ้นความท้าทายไปด้วยกันอย่างมั่นคง

