DRT ปรับกลยุทธ์รับตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัว เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้สังเคราะห์ อิฐมวลเบา และโซลูชันติดตั้งครบวงจร พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายทั่วประเทศ รักษากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 20%
DRT เดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขยายช่องทางจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ตอบรับแนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาส 4/2568 ที่เริ่มทยอยฟื้นตัว หลังรัฐบาลชุดใหม่เร่งเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ
สาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า ตลาดวัสดุก่อสร้างไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงปลายปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น โครงการมอเตอร์เวย์ และการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในวงกว้าง

ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ขับเคลื่อนรายได้ยั่งยืน
DRT เตรียมความพร้อมด้านการผลิตด้วย สินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งความทนทานและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ และ กระเบื้องหลังคาคอนกรีต ที่ช่วยลดของเสียจากการผลิต ไม้สังเคราะห์ ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลทดแทนไม้ธรรมชาติ อิฐมวลเบา (AAC) จากโรงงานใหม่ในจังหวัดสระบุรี ที่ช่วยประหยัดพลังงานในการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพฉนวนกันความร้อนในอาคาร
นอกจากนี้ DRT ยังใช้กลยุทธ์การพัฒนาโซลูชั่น ตอบโจทย์ตลาด ล่าสุด ได้จัดทำ Diamond Roof Solutions และ Diamond SPC Solutions ซึ่งเป็นบริการ “โซลูชันครบวงจร” สำหรับงานติดตั้งหลังคา พื้น ผนัง และบันได ช่วยให้ลูกค้าได้รับทั้งคุณภาพและความสะดวกในขั้นตอนเดียว

ขยายช่องทางจำหน่ายทั่วประเทศ ต่อยอดสู่ตลาดอาเซียน
ในด้านการตลาด DRT เดินหน้ารักษาส่วนแบ่งยอดขายผ่าน 4 ช่องทางหลัก ได้แก่
- ร้านค้าผู้แทนจำหน่าย คิดเป็น 50–55% ของยอดขาย เน้นขยายสู่เมืองรองกว่า 55 จังหวัด
- ตลาดต่างประเทศ สัดส่วน 15–20% มุ่งขยายสู่ตลาดอาเซียน เช่น ลาว เมียนมา และฟิลิปปินส์
- ร้านค้าปลีกวัสดุสมัยใหม่ รักษาสัดส่วน 15–20%
- ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 10–15% ซึ่งเริ่มมีสัญญาณบวกจากการเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 4

สาธิต ระบุว่า แม้ตลาดวัสดุก่อสร้างจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่บริษัทตั้งเป้า รักษายอดขายปี 2568 ให้อยู่ใกล้เคียงปีก่อน หรือหดตัวไม่เกิน 10% พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 20% ด้วยการเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มมูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์รักษ์โลก
ย้ำแบรนด์ “ตราเพชร” สู่ผู้นำวัสดุก่อสร้างยั่งยืน
DRT เดินหน้าต่อยอดกลยุทธ์ “ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม-รายได้เพื่ออนาคต” (Eco Product for Sustainable Growth) สอดรับกับแนวโน้มการก่อสร้างยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอนและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไทยในระยะยาว


