
Responsible Sourcing เป็นแนวทางที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานอย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs หลายข้อ โดยเฉพาะในด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม และความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งนำเรื่องของ Responsible Sourcing หรือการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจ
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกด้วยแนวทาง Responsible Sourcing หรือการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ ของกลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และบริษัท เซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL/เซ็นทารา ที่นอกจากคัดสรรสินค้าคุณภาพ ยังใส่ใจกับทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อรักษาสมดุลของการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยพยายามปรับตัวและดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม เน้นกระบวนการจัดหาสินค้าอย่างรับผิดชอบ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืน ลดการสร้างของเสียจากการผลิต และนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงส่งเสริมการบริโภคที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อธรรมชาติและชุมชน

- CRC ขับเคลื่อนสังคมและชุมชน
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC มีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า “CRC Care” ซึ่งเป็น Commitment ที่จะดูแลและยกระดับทุกภาคส่วนให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนทั้งอีโคซิสเต็ม และนับเป็นองค์กรค้าปลีกรายแรกของประเทศไทยที่เข้าร่วม โครงการฮักโลก กับหอการค้าไทย โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีฉลากรักษ์โลกได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพียงแค่สังเกต สัญลักษณ์โครงการ “ฮักโลก” (Hug The Earth) ซึ่งเป็นรูปมือกำลังโอบกอดโลก สื่อถึงความใส่ใจต่อโลกอย่างยั่งยืน ถูกรวบรวมไว้ในพื้นที่จำหน่ายหรือจุดแสดงสินค้าของห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต ซีเอ็มจี ท็อปส์ โก โฮลเซลล์ ไทวัสดุ เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เป็นต้น

โครงการเด่นของ CRC ได้แก่
• ร้าน เฮลธิฟูล “Healthiful” โซนสนับสนุนสินค้าอินทรีย์และสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จัดหมวดสินค้าภายใต้ชื่อ “Healthiful” สาขาแรกที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่ปี 2563 เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์อินทรีย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่น ๆ โดยสินค้าในหมวด Healthiful ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ ได้แก่ ใบรับรองคุณภาพโดยองค์การอาหารและยา ซึ่งช่วยรับรองคุณภาพการผลิต, มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสร้างเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค, เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ, เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้มีข้อจำกัดทางสุขภาพ รวมถึงผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีระดับโซเดียม ไขมัน หรือนํ้าตาลน้อย

• จริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต ตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต เซ็นทรัล อุดรธานี โดยมีความตั้งใจสร้างให้เป็นแหล่งรวม ผัก ผลไม้ปลอดภัย ปลอดสารพิษ และของดีประจำจังหวัด ซึ่งได้รวบรวมผลผลิตคุณภาพดีจากเกษตรกรท้องถิ่น ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบให้ได้มาตรฐานจนได้สินค้าคุณภาพดีพร้อมวางจำหน่ายให้ทุกคนได้เลือกซื้อ อีกทั้งยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน จริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต เปิดให้บริการที่ท็อปส์ จำนวน 32 แห่ง ทั่วประเทศ รวมกว่า 5,000 รายการ ให้การสนับสนุนเกษตรกรกว่า 11,000 ครัวเรือน และสร้างรายได้ให้แก่เกษตกรรวมกว่า 250 ล้านบาท

- CPN สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย
บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน (Purpose-Driven Business Model) ในการสร้างคุณค่าและความหมายต่อลูกค้า สังคม และโลก ตอบสนองต่อเป้าหมายขององค์กร “Imagining better futures for all” เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคม และยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต ผ่านการสร้างอาชีพ สนับสนุนสินค้า และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ผู้ประกอบการร้านค้าทั้งรายใหญ่ และรายเล็ก ตลอดจนนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ สู่การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับผู้คน
โครงการเด่นบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ได้แก่
• ให้การ สนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยและท้องถิ่น ให้ยังคงสามารถเปิดร้านค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรดได้จํานวน 5,886 ร้านค้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ 2% เมื่อเทียบขนาดพื้นที่พบว่ามีการจัดสรรให้เพิ่มขึ้นที่ 4% จากปี 2566 เป็นไปตามกลยุทธ์ความยั่งยืนในการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและท้องถิ่น
• มอบพื้นที่ค้าขาย ทั้งแบบถาวร และชั่วคราวในรูปแบบของตลาด อาทิ การส่งเสริมสินค้าวิถีไทย สไตล์ใหม่ และสินค้าท้องถิ่น ผ่านโซน Hug Thai ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล เชียงใหม่, ตลาดจริงใจ ฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตในหลายสาขา ซึ่งช่วยเหลือเกษตรกรได้กว่า 40,000 ราย 10,200ครัวเรือน และสร้างรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนท้องถิ่นกว่า 300 ล้านบาท

• เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในศูนย์การค้าทั่วประเทศ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกไร้สารเคมี จากปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง ที่ใส่ใจต่อสุขภาวะที่ดีของลูกค้าทุกเพศทุกวัย พร้อมส่งต่อผ่านการบริจาค 3 % จากยอดขายตลอดทั้งปี ให้มูลนิธิสังคมสุขใจ เพื่อขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ต่อไป
• กระบวนการจัดซื้อ และจัดหาเชิงกลยุทธ์ คือ การปรับเปลี่ยนใช้กระดาษทิชชู่แบบ Center Pull ซึ่งช่วยควบคุมปริมาณการใช้งานต่อครั้งอย่างเหมาะสม โดยมีการให้ข้อมูลป้อนกลับผู้ผลิตเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าในการช่วยลดขยะกระดาษทิชชู่ และติดตั้งเครื่องเป่ามือคุณภาพสูง Dyson Airblade ซึ่งมีตัวกรอง HEPA ดักจับ 99.95% ของอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน ทำให้มือแห้งด้วยลมสะอาด อย่างรวดเร็วและประหยัดพลังงาน
- เซ็นทารา เลือกใช้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL/เซ็นทารา ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้สินค้าและบริการจากผู้ผลิตท้องถิ่น สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากรับรองด้านสิ่งแวดล้อม และดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน

โครงการเด่นของ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL/เซ็นทารา ได้แก่
• โครงการฟาร์มผักออร์แกนิก CGCW Organic Farm จากสนามเทนนิสเก่า บริเวณชั้น 26 ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์พื้นที่ประมาณ 1,300 ตรม. ปรับเปลี่ยนเป็นฟาร์มผักออร์แกนิค มีโต๊ะปลูกผัก 52 ตัว สำหรับปลูกผัก 23 ชนิดตามความต้องการใช้งานเพื่อใช้ในโรงแรม พร้อมพื้นที่ทำปุ๋ยหมักจากเศษผัก ผลไม้และกากกาแฟ ผลผลิตผักออร์แกนิคจากฟาร์มผักลอยฟ้าในปี 2567 ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 3,777 กิโลกรัม ปริมาณขยะอาหาร เศษผักผลไม้นำมาทำปุ๋ยในฟาร์ม 9,729 กิโลกรัม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1.6 tCo2e ปัจจุบันโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา จำนวน 22 แห่ง มีแปลงผักสวนครัวและสมุนไพร (Organic Vegetable & Herb Garden) เพื่อใช้ในโรงแรม
นอกจากนี้โรงแรมเลือกส่งเสริมและสนับสนุนการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการรับรองมาตราฐานด้านความยั่งยืน อาทิ กระดาษชำระ ชา กาแฟ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟ้ฟ้า เคมีภัณฑ์ สีและสเปรย์ อุปกรณ์เครื่องใช้ทั่วไป ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในห้องน้ำ เป็นต้น
• สลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ และ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) เป็นร้านสลัดที่เสิร์ฟความอร่อยจากเมนูเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย ให้ผู้บริโภคได้รับประทานผักจากแหล่งผลิตอาหารที่ดี โดยมุ่งเน้นการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง สดใหม่ ปลอดสารพิษ ส่งตรงจากฟาร์มสู่จานอาหารของคุณ มีการนำเสนอเมนูที่หลากหลาย ทั้งสลัด อาหารคลีน และเมนูเพื่อสุขภาพอื่นๆ ที่อร่อยและดีต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีการจัดซื้อผักออแกนิคจากชุมชน 170,837 กก ต่อปี รวมไปถึงมีเมนูอาหาร Vegan ทั้งหมด 45 รายการ คิดเป็น 15% ของเมนูทั้งหมด
- ธุรกิจใน ตปท.ส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืน
ส่วนห้างสรรพสินค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาจำหน่าย เพื่อส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืน

- ห้างสรรพสินค้าบราวน์ โทมัส (Brown Thomas) The Sustainable Edit คือการคัดสรรผลิตภัณฑ์ในหมวดแฟชั่น, ความงาม, ของใช้ในบ้าน และอาหาร ซึ่งผ่านเกณฑ์ความยั่งยืนที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นได้รับการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีหลักฐานประกอบก่อนที่จะถูกคัดเลือกเข้าสู่ The Sustainable Edit กระบวนการนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมั่นใจ โดยรู้ว่าผลิตภัณฑ์ใน The Sustainable Edit ได้รับการตรวจสอบและผ่านมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ การคัดเลือกผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายทั้งในร้านค้า รวมถึงบนเว็บไซต์และแอปสะสมแต้มของ Brown Thomas และ Arnotts
- ห้างสรรพสินค้า ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) เป็นสมาชิกของ Sustainable Apparel Coalition (SAC) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่น และยังใช้ Worldly Brand & Retail Module (BRM) ซึ่งเป็นแบบประเมินด้านความยั่งยืนสำหรับแบรนด์และผู้ประกอบการค้าปลีก เพื่อวัดผลและติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ดี แบนคอร์ฟ ดำเนินการประเมิน BRM เป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและมุ่งพัฒนาให้ได้คะแนนที่ดีขึ้น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในทุกมิติ
- ห้างสรรพสินค้า คาเดเว (KaDeWe) คัดสรรแบรนด์สินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน B Corp ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลที่มอบให้กับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง การรับรองนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างผลกระทบเชิงบวกในทุกมิติ ทั้ง การกำกับดูแลกิจการ การดูแล พนักงาน การพัฒนา ชุมชน การรักษา สิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญกับลูกค้า

พิชัย กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจและรับผิดชอบต่อโลก ตั้งเป้าสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าสร้างสังคมที่ทุกฝ่ายเติบโตร่วมกันอย่างแท้จริง โดยมีผู้บริโภคและชุมชนเป็นส่วนสำคัญในการร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
