
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงาน MFLF Sustainability Forum 2025 ภายใต้ธีม “วิกฤตโลก ทางออกไทย” เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนแนวทางรับมือวิกฤตสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมเสนอ “คาร์บอนเครดิต” และ “ภาคการเกษตร” กุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero 2050
ไฮไลต์สำคัญของงาน MFLF Sustainability Forum 2025 ภายใต้ธีม “วิกฤตโลก ทางออกไทย” (Global Challenges, Local Solutions at Scale) คือ พิธีส่งมอบคาร์บอนเครดิตกว่า 43,123 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂e) ซึ่งถือเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากโครงการ “คุณดูแลป่า เราดูแลคุณ” ที่มูลนิธิฯมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการร่วมกับกรมป่าไม้ และชุมชนท้องถิ่นใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 250,000 ไร่ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จนี้สะท้อนพลังของ ป่าชุมชน ที่ไม่เพียงเก็บกักคาร์บอน แต่ยังสร้างรายได้หมุนเวียนสู่คนท้องถิ่น ทั้งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ งานจักสาน น้ำผึ้ง และอาชีพเสริมอื่น ๆ

คาร์บอนเครดิต: โอกาสใหม่ของไทย
หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล เลขาธิการและซีอีโอ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ชี้ว่า คาร์บอนเครดิตจากป่าชุมชนทำได้เกินเป้าถึง 4 เท่า เป็นหลักฐานว่าการอนุรักษ์ควบคู่การพัฒนาเกิดผลสำเร็จจริง หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน พร้อมเน้นย้ำว่าความยั่งยืนต้องก้าวข้ามการทำงานแบบ Business As Usual (BAU) และหันมาลงทุนใน nature credits หรือกลไกใหม่ ๆ ที่สร้างประโยชน์ทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และชุมชน
ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ เสริมว่า ไทยจำเป็นต้องเชื่อมโยง T-VER เข้ากับตลาดคาร์บอนภาคบังคับ และผลักดันกฎหมายด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรง เชื่อมโยงรายได้จากคาร์บอนเครดิตไปถึงประชาชนและเกษตรกรอย่างเป็นธรรม

ภาคการเกษตร: หัวใจของความยั่งยืน
หนึ่งในประเด็นที่ถูกย้ำตลอดเวที คือ ภาคการเกษตรไทย ซึ่งไม่เพียงเป็นเสาหลักเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการกระจายรายได้และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หากยกระดับประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกษตรไทยจะสามารถสร้าง “เศรษฐกิจสีเขียว” ที่แข็งแกร่งในประเทศ และแข่งขันได้ในตลาดโลก แม้เผชิญมาตรการเข้มงวดจากยุโรป เช่น CBAM และ EUDR

ทางออกไทยท่ามกลางวิกฤตโลก
การเสวนาแบ่งเป็น 3 ช่วงใหญ่ ครอบคลุมตั้งแต่ภาพรวมวิกฤตโลก แนวทางการสร้าง การเงินเพื่อความยั่งยืน ไปจนถึงประสบการณ์ตรงของชุมชนในเชียงใหม่และพะเยา ที่พิสูจน์ว่าการดูแลป่าอย่างเป็นระบบสามารถเปลี่ยน “ปัญหา” ให้เป็น “โอกาส” สร้างทั้ง คาร์บอนเครดิตคุณภาพสูง และยกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่
ในท้ายที่สุด เวทีนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า ความยั่งยืนคือเศรษฐกิจ และ “ป่าชุมชน + เกษตรไทย” คือเส้นทางที่ทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤตโลก ไปสู่อนาคตที่แข่งขันได้บนฐานธรรมชาติและความร่วมมือของทุกภาคส่วน
