
มหาวิทยาลัยมหิดล ยกระดับบทบาท “ปัญญาของแผ่นดิน” ประกาศผลรางวัล “มหาวิทยาลัยมหิดล จงเจตน์เมธีวิชญ์” ครั้งแรก เชิดชูนักวิจัยผู้สร้างสรรค์ผลงานที่ทรงคุณค่าและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งความจริง (Real World Impact) ตอกย้ำยุทธศาสตร์การสร้าง นักวิจัยคุณภาพในระบบนิเวศการวิจัยที่ครอบคลุม พร้อมยกระดับศักยภาพประเทศไทยสู่การเป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ
มหาวิทยาลัยมหิดลสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ให้กับวงการวิจัยของประเทศไทย ด้วยการประกาศผลรางวัล “มหาวิทยาลัยมหิดล จงเจตน์เมธีวิชญ์” ประจำปี 2568 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรางวัลนักวิจัยระดับประเทศที่ใหญ่ที่สุดและเป็นการมอบรางวัลครั้งแรก โดยยกย่องนักวิจัยคุณภาพ ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่นำไปใช้ได้จริงและร่วมขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกสู่สังคม (Real World Impact)
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า รางวัลนี้สะท้อนพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้วัดความสำเร็จจากจำนวนบทความวิชาการที่ตีพิมพ์เท่านั้น แต่คือการสร้างงานวิจัยที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์จริงต่อประชาชนไทยและโลก รางวัล ‘มหาวิทยาลัยมหิดล จงเจตน์เมธีวิชญ์’ จึงเป็นมากกว่ารางวัลเชิดชูเกียรติ แต่คือ แรงบันดาลใจและเครื่องมือในการผลักดันประเทศสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

ยกย่อง 2 นักวิจัยผู้สร้าง Real World Impact
สำหรับปีแรกของการจัดงาน มหาวิทยาลัยมหิดลมอบรางวัลให้แก่ 2 นักวิจัยผู้สร้างสรรค์ผลงานระดับโลก ได้แก่
- นพ.วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ผู้ผลักดันระบบ “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” (30 บาทรักษาทุกโรค) ที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตคนไทยกว่า 67 ล้านคน ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพครัวเรือน และได้รับการยกย่องจาก MIT ว่าเป็น The Great Equalizer

- รศ. ดร.วโรดม เจริญสวรรค์ ผู้ขับเคลื่อนโครงการ Genomics Thailand และเครือข่าย Asian Immune Diversity Atlas (AIDA) รวมถึงการก่อตั้งศูนย์ Single-Cell Omics แห่งแรกในไทย เพื่อยกระดับการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) และเชื่อมโยงงานวิจัยสู่ระดับโลก

สร้างระบบนิเวศการวิจัยที่แข็งแกร่ง
ความสำเร็จครั้งนี้ เกิดขึ้นบนระบบนิเวศที่มหิดลสร้างไว้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ การเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและนักวิจัยรุ่นใหม่ ความร่วมมือกับเครือข่ายนานาชาติ พร้อมการสนับสนุนกว่า 200 ล้านบาท การพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมเสริม ที่บ่มเพาะทักษะรอบด้านให้นักศึกษา
รวมถึงการมี ศูนย์สนับสนุนการวิจัยและการแลกเปลี่ยน เช่น ศูนย์ MUIAo ที่อำนวยความสะดวกนักวิจัยและบุคลากรต่างชาติ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับการบริหารจัดการและสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคม
ผลักดันศักยภาพไทยสู่เวทีโลก
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก THE Impact University Rankings ที่ยกให้มหิดลอยู่ใน อันดับที่ 19 ของโลก คือหลักฐานว่าระบบนิเวศการวิจัยของไทยมีศักยภาพก้าวไกล ไม่เพียงเพื่อสังคมไทย แต่ยังเชื่อมโยงสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในระดับสากล
การสร้างรางวัลและการพัฒนานักวิจัยคุณภาพในครั้งนี้ ไม่ได้เพียงยกระดับวงการวิชาการไทย แต่ยังสร้าง อิมแพ็คเชิงบวกในวงกว้าง ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ขณะเดียวกันยังเป็นพลังสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การยอมรับในระดับโลก
