
“กัลฟ์” สานต่อภารกิจ “Powering the Future, Empowering the People” ชูประเด็นส่งเสริมการศึกษาและสนับสนุนความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งต่อความรู้ด้านพลังงานที่ถูกต้องเหมาะสมให้เยาวชน จังหวัดเลย และเชียงราย ผ่านโครงการ GULF Sparks Energy พาน้องท่องโลกพลังงาน พร้อมผลักดันองค์กรมุ่งสู่ Net Zero ปี 2593
ธนญ ตันติสุนทร Executive Officer บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “GULF” เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ด้วยเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 และเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ไม่น้อยกว่า 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมดภายในปี 2578 เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมเสริมพลังให้ชุมชนและสังคมไทย
“GULF” เดินหน้าภารกิจ “Powering the Future, Empowering the People” ที่ครอบคลุม 4 กลยุทธ์สำคัญ สร้างการเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำการเป็นองค์กรชั้นนำด้านพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานยั่งยืนในระดับภูมิภาค โดย 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

1) การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคสำหรับชุมชนท้องถิ่น โดยดำเนินการผ่านโครงการ “GULF Sparks, Life Starts เติมพลังไฟให้ชีวิต” เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ทุรกันดาร จุดประกายทุกชีวิตให้สว่างไสว ด้วยไฟฟ้าสะอาด โดยดำเนินการไปแล้ว 4 พื้นที่ ได้แก่ 1. โรงเรียนบ้านห้วยน้ำไซ (สาขาร่องกล้าวิทยา) อ.นครไทย จ.พิษณุโลก 2. เกาะทุ่งนางดำ อ.คุระบุรี จ.พังงา 3. บ้านคลองทราย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และ 4. โรงเรียนมอเคลอะคี อ.ท่าสองยาง จ.ตาก

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “Green Energy Green Network for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย” ที่ร่วมกับ AIS มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสทางการศึกษา เพิ่มการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ตลอดจนการเติบโตของเศรษฐกิจชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยในพื้นที่ห่างไกล ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ให้แสงสว่างแก่ชุมชน พร้อมติดตั้งระบบสื่อสารจากสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แก่ชุมชนห่างไกล โดยดำเนินการไปแล้วใน 6 พื้นที่ ได้แก่ 1) บ้านดอกไม้สด อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 2) บ้านมอโกโพคี อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 3) บ้านแม่ตอละ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน 4) บ้านผีปานเหนือ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ 5) บ้านแม่โมงเย้า อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และ 6) บ้านขุนก๋อง อ.แม่ทา จ.ลำพูน สามารถผลิตไฟฟ้าได้กว่า 22 กิโลวัตต์ มีประชาชนที่ได้รับประโยชน์กว่า 4,000 คน

2) สนับสนุนการศึกษา ทุกระดับชั้นในทุกพื้นที่ ดำเนินการผ่านโครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับผู้ป่วยในความดูแลของศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สร้างโอกาสทำตามความฝันให้กับผู้ป่วยของศูนย์ฯ ที่ทางครอบครัวมีรายได้น้อย ให้ได้เข้ารับการศึกษาในระดับสูงสุดตามความมุ่งหวังของครอบครัวและตามศักยภาพทางสติปัญญาและร่างกายของผู้ป่วย

ขณะเดียวกันยังร่วมกับ “มูลนิธิออทิสติกไทย” จัดกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการ และพัฒนาทักษะด้านศิลปะให้กับเยาวชนจากมูลนิธิฯ ตลอดจนการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาสำหรับเด็กพิเศษ โดยร่วมกับ “ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดสระบุรี หน่วยบริการแก่งคอย” ในการปรับปรุงห้องเรียน และอาคารสถานที่ให้มีความพร้อม มีความปลอดภัย สะดวกสบาย และเอื้ออำนวยต่อการดูแลเด็กกลุ่มนี้ ตลอดจนการสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน เครื่องเล่นต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่าง ๆ

อีกหนึ่งโครงการสำคัญคือ โครงการ “GULF Sparks Energy ชวนน้องท่องโลกพลังงาน” ที่นำร่องในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ เช่น โรงเรียนเวียงแก่นวิทยา จังหวัดเชียงราย และ โรงเรียนเชียงคาน โรงเรียนบ้านสงาว จังหวัดเลย
GULF ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านพลังงานประเภทต่างๆ และแนะนำเยาวชนให้คิดวิเคราะห์ว่า พลังงานประเภทไหน ที่เหมาะกับพื้นที่ของตัวเองมากที่สุด ผ่านการทำกิจกรรม 5 ฐาน ได้แก่ ฐานเชื้อเพลิงพลังงานฟอสซิล ฐานพลังงานลม ฐานพลังงานแสงอาทิตย์ และฐานพลังงานน้ำ นอกจากเด็กๆ จะได้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานประเภทต่าง ๆ แล้ว ยังรู้จักแหล่งที่มา รวมถึงหลักการทำงาน และกระบวนการผลิต ขณะเดียวกันยังได้ปลูกฝังแนวคิดการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด

3) ส่งเสริมสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน และสาธารณสุข ผ่านโครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ “GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน” ที่ร่วมกับ “คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคมให้ได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพ พร้อมกันนี้ ยังได้ต่อยอดโครงการด้วยการสนับสนุนการปรับปรุงอาคารโครงการทันตกรรมปากเกร็ด จ.นนทบุรี สำหรับเด็กที่อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ในพื้นที่บ้านปากเกร็ด

GULF ยังสนับสนุนกล้องผ่าตัดกระดูกไขสันหลังชนิดแผลเล็ก (Endoscopic Spine Surgery) แก่ศูนย์ผ่าตัดผ่านกระดูกสันหลังและระบบประสาท โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลในการผ่าตัดกระดูกสันหลังชนิดแผลเล็ก ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดเวลาการพักฟื้นที่โรงพยาบาล และลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียง ตลอดจนการสนับสนุนการสร้างศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงนวัตกรรมการฟอกไตประสิทธิภาพสูง เป็นต้น
4) การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ดำเนินการผ่านโครงการ “Green Mission by Chula x GULF ภารกิจรักษ์ยั่งยืน” โดยร่วมกับ “คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” และ “สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เพื่อปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนไทย โดยเปิดโอกาสให้เขาเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน

ธนญ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนขององค์กร สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals – SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ เป้าหมายที่ 7 การสร้างหลักประกันว่าทุกคนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ในราคาที่สามารถซื้อหาได้ เชื่อถือได้ และยั่งยืน, เป้าหมายที่ 13 ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น, เป้าหมายที่ 8 การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่และ มีผลิตภาพ และการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน, เป้าหมายที่ 3 การสร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดี และการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย และเป้าหมายที่ 6 การสร้างหลักประกันเรื่องน้ำและการสุขาภิบาล ให้มีการจัดการอย่างยั่งยืนและมีสภาพพร้อมใช้ สำหรับทุกคน
ส่วนการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG ที่ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล GULF ตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ลงทุนเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ด้วยการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ไม่น้อยกว่า 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมดภายในปี 2578 พร้อมกับบูรณาการประเด็นด้าน ESG ตลอดห่วงโซ่คุณค่าร่วมกับคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ
ขณะเดียวกันยังมุ่งสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตั้งแต่พนักงาน ผู้ถือหุ้น ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะเชื่อว่าความสำเร็จทางธุรกิจ ต้องเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม และการมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

GULF ยังได้ดำเนินโครงการ “ศูนย์การเรียนรู้และแปลงนาสาธิตหนองแซง” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่โรงไฟฟ้าหนองแซง จ.สระบุรี โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อสนับสนุนการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน และเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้เห็นว่าโรงไฟฟ้าสามารถอยู่คู่กับชุมชนได้โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งมีฐานการเรียนรู้ด้านการเกษตรที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าวอินทรีย์ การปลูกผักผลไม้ การเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ และการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ตลอดจนมีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อแบ่งปันความรู้ให้แก่เกษตรกร ผู้ที่สนใจได้มาศึกษาดูงาน รวมถึงเป็นพื้นที่สันทนาการในท้องถิ่น ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์และการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกด้วย
ปัจจุบัน GULF ได้ดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนและสังคมที่ยั่งยืน ครอบคลุม 4 กลยุทธ์หลักไปแล้วกว่า 60 โครงการ ครอบคลุม 3,500 ชุมชน ใน 40 จังหวัดของประเทศไทย มีประชาชนจำนวนว่า 20,000 คน ที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการ สามารถสร้างรายได้กว่า 200,000 บาทต่อปี และจากความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อความยั่งยืน ทั้งในมิติการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการยกระดับชีวิตของผู้คน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกัน ทำให้ GULF ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก S&P Global Sustainability Yearbook ในกลุ่มอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคไฟฟ้า (Electric Utilities) และยังได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนชั้นนำระดับโลก “FTSE4Good Index” ตลอดจนได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” กลุ่มทรัพยากร จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และในปี 2567 ที่ผ่านมายังได้รับการประเมินในระดับสูงสุด AAA
