
ยูนิโคล่ จับมือโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ส่งมอบ “Happy Gloves” ถุงมือที่สร้างสรรค์จากน้องๆ ชั้นประถม เพื่อเด็กพิการทางสมอง 1,000 ชุด หนุนนวัตกรรมเยาวชนไทย เพื่อสังคมยั่งยืน
ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) สานต่อพันธกิจด้านความยั่งยืน ร่วมมือกับ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งมอบ “Happy Gloves ถุงมือปันสุข เพื่อน้อง เพื่อโลก” จำนวน 1,000 ชุด ให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาฯ และ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือ เด็กพิการทางสมอง ทั่วประเทศ

นวัตกรรมเยาวชนไทย เพื่อคุณภาพชีวิตเด็กพิการ
จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากความตั้งใจของ น้องๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ อายุเพียง 10 ขวบตอนเริ่มต้น ภายใต้การดูแลของ อาจารย์จีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์ ที่ต้องการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือเด็กพิการทางสมอง (Cerebral Palsy) ซึ่งมักมีอาการเกร็งของมือจนเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
“เราค้นพบว่า เด็กๆ เหล่านี้มีอาการบีบมือจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ เกิดแผล และบางรายถึงขั้นข้อมือหัก เราจึงพัฒนาถุงมือที่ไม่เพียงช่วยพยุงข้อมือ แต่ยังผสานฟังก์ชันของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและความสุข” — ไอริณรยา โสตางกูร ตัวแทนเยาวนวัตกร กล่าว
Happy Gloves ถูกออกแบบให้ ฟรีไซส์ มีโครงเหล็กดามข้อมือ เสริมตุ๊กตารองรับนิ้ว ป้องกันการบีบเกร็ง พร้อมฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อเด็กมีอาการบีบมือรุนแรง เพื่อให้ผู้ดูแลเข้าช่วยทันเวลา

ยูนิโคล่: เปลี่ยนเสื้อผ้าใช้แล้วให้เป็นพลังใหม่เพื่อสังคม
ยูนิโคล่สนับสนุนโครงการนี้ผ่านการรีไซเคิลเสื้อผ้าจากโครงการ RE.UNIQLO โดยคัดแยกเสื้อผ้าที่ไม่สามารถนำไปบริจาคได้ มาผลิตเป็นวัสดุหลักของถุงมือ Happy Gloves เพื่อยืดอายุผ้า พร้อมสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสังคม
“ยูนิโคล่เชื่อว่าความยั่งยืนเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ และการร่วมมือกัน ครั้งนี้เราภูมิใจที่ได้มีส่วนผลักดันนวัตกรรมของเยาวชนไทยให้เกิดประโยชน์จริงในสังคม” — โยชิทาเกะ วาคากุวะ CEO ยูนิโคล่ (ประเทศไทย)
นอกจากการผลิตถุงมือแล้ว ยูนิโคล่ยังเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาชุมชน สร้างสังคมที่แข็งแกร่งและน่าอยู่ ผ่านแนวคิด LifeWear ที่เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า

โรคพิการทางสมองในเด็ก: ความท้าทายที่ยังต้องการการช่วยเหลือ
ข้อมูลจากองค์กรด้านสุขภาพระบุว่า ปัจจุบันมีเด็กที่ป่วยเป็นโรค Cerebral Palsy หรือ เด็กพิการทางสมอง ราว 6,600 – 12,600 คนในประเทศไทย โดยอาการมักส่งผลต่อการเคลื่อนไหว การใช้กล้ามเนื้อ และพัฒนาการด้านต่างๆ เด็กกลุ่มนี้จึงต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เหมาะสม ซึ่งยังมีไม่เพียงพอในปัจจุบัน
โครงการ Happy Gloves จึงเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้าง “โซลูชัน” ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านกายภาพ และพัฒนาการทางอารมณ์ให้กับเด็กกลุ่มนี้
