admin 
DHL Express และ Cathay Group ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ในการใช้ น้ำมันเชื้อเพลิง SAF ขับเคลื่อนการลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมขนส่งทางอากาศ พร้อมเป็นแรงกระตุ้นให้การผลิตและการใช้ SAF ในภูมิภาคเอเชียเติบโตอย่างยั่งยืน
ภายใต้ข้อตกลงนี้ Cathay Group จะจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงการบินยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel – SAF) ปริมาณ 2,400 เมตริกตัน ให้ DHL Express ใช้กับเที่ยวบินของ Air Hong Kong ที่ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานอินชอน (เกาหลีใต้), นาริตะ (ญี่ปุ่น) และ ชางงี (สิงคโปร์) ตลอดปี 2568 โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมตลอดวงจรชีวิตได้ราว 7,190 เมตริกตัน หรือเทียบเท่าการลดการปล่อยจาก เที่ยวบินแอร์บัส A330 เส้นทางฮ่องกง–สิงคโปร์กว่า 100 เที่ยว
ก้าวสำคัญของเอเชียสู่การบินลดคาร์บอน
Peter Bardens รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการเครือข่ายและการบิน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ DHL Express กล่าวว่า ปัจจุบัน SAF มีสัดส่วนการใช้ต่ำกว่า 1% ของเชื้อเพลิงการบินทั่วโลก แต่การขนส่งทางอากาศยังเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยคาร์บอนหลัก “การขยายการใช้น้ำมัน SAF ในเอเชียกับ Cathay ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันการผลิตและความต้องการใช้ SAF ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ DHL Group Strategy 2030 ที่มุ่งเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์สีเขียว”
ด้าน Tom Owen ผู้อำนวยการฝ่ายขนส่งสินค้า Cathay Group เสริมว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ Air Hong Kong ใช้ SAF บนเที่ยวบิน เป็นหมุดหมายสำคัญของ Cathay ในการขยายการใช้น้ำมันสะอาดทั่วเครือข่ายโลก ความร่วมมือครั้งนี้เป็นตัวอย่างของการสร้างระบบนิเวศ SAF ในเอเชียที่เข้มแข็งและเติบโตได้จริง
เสริมพันธมิตร ผลักดัน SAF สู่การใช้งานวงกว้าง
ความร่วมมือนี้ต่อยอดจากโครงการ Cathay Corporate SAF Program ที่เปิดตัวในปี 2565 เพื่อช่วยองค์กรต่าง ๆ ลดการปล่อยคาร์บอนจากการเดินทางธุรกิจและขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยในปี 2567 มีการใช้น้ำมัน SAF กว่า 6,000 เมตริกตัน จากพันธมิตร 16 ราย เช่น HSBC, AIA และ Standard Chartered
Cathay ยังเดินหน้าขยายเครือข่าย SAF ทั่วภูมิภาค ทั้งความร่วมมือกับ Sinopec ผลิต SAF ในจีนแผ่นดินใหญ่และส่งออกสู่ฮ่องกงเป็นครั้งแรก รวมถึงจับมือ SK Energy จัดหา SAF ในเกาหลีใต้ปี 2568–2570 พร้อมริเริ่ม Hong Kong Sustainable Aviation Fuel Coalition (HKSAFC) เพื่อผลักดันนโยบายและการใช้ SAF ในท้องถิ่น
ขณะเดียวกัน DHL Express เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการใช้ SAF ระดับโลก โดยมีสัญญาระยะยาวกับผู้ผลิตหลายราย เช่น Neste, bp และ World Energy รวมถึงล่าสุดตกลงใช้น้ำมัน SAF จาก Cosmo Oil Marketing ในญี่ปุ่น และ SAF ปริมาณ 7,400 เมตริกตันจาก Neste สำหรับเที่ยวบินออกจากสิงคโปร์
หมุดหมายสู่โลจิสติกส์ไร้คาร์บอน 2050
ทั้ง DHL และ Cathay มองว่าการลงทุนใน SAF คือกุญแจสำคัญสู่การลดคาร์บอนระยะยาว และเป็นกลไกสำคัญในการสร้างระบบนิเวศการบินที่ยั่งยืนในเอเชีย เป้าหมายสูงสุดคือการบรรลุ Net-Zero Emissions ภายในปี 2050
About The Author
