
Nespresso เดินหน้าขับเคลื่อนกาแฟแคปซูลรักษ์โลก ตั้งเป้ารีไซเคิลเพิ่ม พร้อมแคมเปญ ‘My Cup of Purpose’ ตอกย้ำความรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero สร้างวัฒนธรรมกาแฟที่ยั่งยืน ตั้งแต่จิบแรกจนถึงการจัดการขยะอย่างครบวงจร
ทุกแก้วกาแฟ มีความหมายกับโลกใบนี้
ในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น การเลือกดื่มกาแฟไม่ได้หมายถึงแค่รสชาติ แต่ยังสะท้อนการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม Nespresso จึงเปิดตัวแคมเปญ “My Cup of Purpose” ในประเทศไทย เพื่อสร้างประสบการณ์กาแฟที่มีคุณค่าในทุกแก้ว ทั้งสนุกและมีส่วนร่วมกับความยั่งยืน
“เราอยากให้ผู้บริโภคได้สอดแทรกความยั่งยืนง่าย ๆ เข้ากับกิจวัตรประจำวัน และเชื่อมโยงเข้ากับคุณค่าส่วนบุคคล เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดี ๆ ให้สิ่งแวดล้อมและสังคม” – อีลิส ทัน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เนสเพรสโซ ประเทศไทย

ความยั่งยืนเริ่มจากต้นทางถึงปลายทาง
Nespresso ลงทุนอย่างต่อเนื่องใน ความยั่งยืนของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การปลูกกาแฟแบบฟื้นฟู การสนับสนุนเกษตรกรผ่านโครงการ AAA Sustainable Quality™ ร่วมกับเกษตรกรกว่า 168,550 รายใน 18 ประเทศ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ชุมชน การใช้แคปซูลอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% และการออกแบบเครื่องชงที่ประหยัดพลังงาน ตลอดจนการสร้างระบบรีไซเคิลหลังการใช้งานให้ครบวงจร
Nespresso ดำเนินธุรกิจด้วยความตั้งใจสร้าง ความยั่งยืนใน 3 ด้านหลัก:
- การหมุนเวียน (Circularity) – ส่งเสริมการรีไซเคิลแคปซูลกาแฟใช้แล้ว และนำกากกาแฟไปแปรรูปเป็นปุ๋ยให้เกษตรกร
- ความใส่ใจต่อสภาพภูมิอากาศ (Climate) – ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่การผลิต
- ความใส่ใจต่อชุมชน (Community) – ร่วมมือกับเกษตรกรและชุมชนเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี

ในประเทศไทย เนสเพรสโซ ร่วมมือกับ บริษัท วงษ์พาณิชย์ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อรวบรวมและรีไซเคิลแคปซูลทุกชิ้น พร้อมส่งต่อกากกาแฟเป็นปุ๋ยสำหรับเกษตรกร ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าแก้วกาแฟทุกแก้วมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม
อีลิส เสริมว่า ปัจจุบันเรามี บริการรับแคปซูลคืนผ่านการจัดส่ง และยังหลายแนวทางที่สามารถทำได้ เช่น ออสเตรเลีย ทำงานร่วมกับร้านดอกไม้กว่า 300 แห่ง ให้ผู้บริโภคสามารถนำแคปซูลไปรีไซเคิลได้ หรือที่ไต้หวัน ทำงานร่วมกับ ร้านสะดวกซื้อ ให้เป็นจุดรับคืน
ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมาก แต่ยังเชื่อว่า การทำงานร่วมกับรัฐบาลและการบูรณาการเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณูปโภค เป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งหลายตลาดยุโรปก็ทำเช่นนี้ คือทำให้ การเก็บแคปซูลเป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณะ อย่างไรก็ตาม นี่เป็น เส้นทางระยะยาว ที่ต้องใช้เวลา แต่ในระหว่างนี้ เราก็ต้อง สำรวจโอกาสและแนวทางที่หลากหลาย เพื่อทำให้การรีไซเคิลเข้าถึงง่ายที่สุดสำหรับผู้บริโภค

รีไซเคิลง่าย ใกล้ตัวคุณ
อมรทิพย์ วัชรีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด เนสเพรสโซ ประเทศไทย กล่าวว่า แคมเปญ My Cup of Purpose ช่วยให้ผู้บริโภคในไทยเข้าถึงจุดรับคืนแคปซูลได้ง่ายขึ้น ผ่านหลายช่องทาง เช่น
- บูทิก Nespresso 8 แห่ง ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่
- พนักงานจัดส่งสินค้า
- จุดรับคืนตามห้างสรรพสินค้า
- ไปรษณีย์ที่ร่วมโครงการ

ทุกแคปซูลที่ถูกส่งกลับจะถูกนำไปรีไซเคิลให้เกิด Second Life โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่รับแคปซูลไปรีไซเคิล แปรรูปเป็นของใช้ประจำวัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอีกครั้ง เช่น จักรยาน ปากกา แก้ว หรือปุ๋ยสำหรับต้นไม้ ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และทำให้ Small Action กลายเป็น Big Impact ที่ใครๆ ก็สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้

แรงบันดาลใจและวิถีชีวิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
นอกจากการรีไซเคิลแล้ว แคมเปญนี้ยังสะท้อน Purpose-Driven Lifestyle ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงความหมายของตัวเองกับความยั่งยืน เช่น สนับสนุนเกษตรกร ช่วยลดขยะ หรือสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
การเดินหน้าภารกิจด้านความยั่งยืนของปี 2568 เริ่มต้นด้วยแนวคิด ‘Circularity’ เน้นให้การรีไซเคิลเข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน ผ่านกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ที่ช่วยผสานความยั่งยืนกับชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างกิจกรรมล่าสุด Nespresso ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จัดปลูกต้นไม้ในสวนป่าเอกมัย เขตวัฒนา ใช้ดินผสมกากกาแฟเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ และสร้างพื้นที่สีเขียว พร้อมเชิญ อินฟลูเอนเซอร์สายสิ่งแวดล้อม จุดประกายให้ผู้บริโภคไทยหันมาสนใจวิถีชีวิตใส่ใจโลก

สำหรับ วันกาแฟสากล (International Coffee Day) Nespresso เตรียมกิจกรรมเพื่อเชิญชวนลูกค้าร่วมดื่มกาแฟอย่างยั่งยืน สร้าง ‘Me Moments’ ที่มีคุณค่าและความหมาย
Nespresso กับตัวเลขความสำเร็จด้านรีไซเคิล
อัตราการรีไซเคิลแคปซูลในประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ไทย ปัจจุบันอัตรารีไซเคิลแคปซูลอยู่ที่ 25% Nespresso ตั้งเป้าภายในปี 2025 นี้จะผลักดันให้ได้ 27% และจะขยับเพื่อมขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ ค่าเฉลี่ยโลก อยู่ที่ 35% และจะขับเคลื่อนสู่ 60% ภายในปี 2030 โดยประเทศในเอเชียที่มีอัตรารีไซเคิลสูงสุด คือ ไต้หวัน มากกว่า 50% ประเทศที่มีอัตรารีไซเคิลสูงสุด เช่น สวิตเซอร์แลนด์ 75–80% ของแคปซูลทั้งหมด

Nespresso มีความพยายามผลักดันให้มีการส่งกลับแคปซูลกาแฟมารีไซเคิลมากขึ้น โดยจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจให้ผู้คนรู้ว่าควรรีไซเคิลอย่างไร
- ขั้นแรกคือการสร้างความตระหนักรู้ (awareness) ผู้คนต้องรู้ว่า ควรวางแคปซูลที่ไหน รีไซเคิลอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
- ขั้นที่สองคือทำให้สะดวกที่สุด สำหรับผู้บริโภค
ปัจจุบัน Nespresso มี บริการเก็บแคปซูลเฉพาะ (dedicated collection) ในไทย แต่ในตลาดอื่น เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ผู้บริโภคสามารถ ทิ้งแคปซูลลงถังขยะสาธารณะได้
กลุ่ม Nespresso มีแผนงานสู่ Net Zero โดยพยายามดำเนินทุกขั้นตอนเพื่อ ลด Carbon Footprint ให้มากที่สุด ด้วยเป้าหมายระยะสั้นคือ ปี 2030 แต่เป้าหมายสูงสุดคือ ปี 2050 และ จากข้อมูลปีที่ผ่านมา พบว่า Nespresso สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ราว 280,000 ตันทั่วโลก
แคมเปญ My Cup of Purpose ไม่ใช่แค่กิจกรรมการตลาด แต่เป็นการปฏิบัติจริงที่สะท้อน DNA ของ Nespresso ทำให้ผู้บริโภคในไทยดื่มกาแฟคุณภาพ พร้อมมีส่วนร่วมกับความยั่งยืนและการรีไซเคิลได้ง่ายใกล้บ้าน ทุกแก้วกาแฟจึงเต็มไปด้วยรสชาติและความหมาย
