ไลอ้อน คว้าความสำเร็จ กระบวนการผลิตอัจฉริยะหนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน

ไลอ้อน ประเทศไทย ตอกย้ำผู้นำการผลิตที่ยั่งยืน รับ 2 ใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2050 ส่งผลคว้าใบรับรอง Carbon Offset Certificate และ Carbon Footprint of Organization (CFO) จาก อบก

ไลอ้อน ประเทศไทย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ผู้นำด้านการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ล่าสุดคว้าใบรับรอง Carbon Offset Certificate และ Carbon Footprint of Organization (CFO) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. สะท้อนความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมเดินหน้าแผน Net Zero ปี 2050 ด้วยการใช้พลังงานสะอาด กระบวนการผลิตอัจฉริยะ และเศรษฐกิจหมุนเวียน

จากกระบวนการผลิตสู่ใบรับรอง “Carbon Neutral from Electricity”

ดร.กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิต บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไลอ้อนได้ชดเชยการปล่อยคาร์บอนที่เกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้าในโรงงานทั้งหมด ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิตจากโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ได้รับการรับรองตามโครงการ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ทำให้การปล่อยคาร์บอนสุทธิจากการใช้ไฟฟ้า = ศูนย์ (Net Zero Emissions from Electricity Consumption)

พร้อมกันนี้ ไลอ้อนยังได้รับใบรับรอง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” ซึ่งครอบคลุมการวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมทั้งหมด เช่น การใช้พลังงาน การขนส่ง การจัดการของเสีย โดยมีระบบติดตาม ตรวจสอบ และลดผลกระทบอย่างมีประสิทธิภาพ

ยกระดับสู่โรงงานสีเขียวด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ไลอ้อนลงทุนพัฒนาระบบการผลิตคิดเป็น 0.5% ของยอดขายทุกปี โดยมีแผนคืนทุนภายใน 3 ปี ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่าง AI, IoT, Digital Twin และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์พลังงานแบบเรียลไทม์ ควบคุมกระบวนการผลิตให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดความสูญเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพในทุกมิติ

การปรับปรุงเหล่านี้ทำให้ไลอ้อนสามารถลดการปล่อย CO₂ ได้แล้วกว่า 17% และลดการใช้น้ำได้ 10% (จากข้อมูลล่าสุด) พร้อมเป้าหมายลด CO₂ ให้ได้ 55% ภายในปี 2030 และบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050

ESG และ SDGs: ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่คือวัฒนธรรมองค์กร

ไลอ้อนยึดแนวทาง ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) และเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ เป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ ทั้งการใช้ บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ, การลดขยะเป็นศูนย์ (Zero Landfill), การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และการใช้ความร้อนหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่

ในด้านสังคม ไลอ้อนพัฒนา นวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดี เช่น การใช้วัสดุปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ทุกช่วงวัย การพิมพ์อักษรเบรลล์บนฉลากสินค้า และโครงการสุขภาพเชิงรุกอย่าง “LION ฟิตเนสโซไซตี้” และกิจกรรมส่งเสริมสุขอนามัยทั่วประเทศ

ความร่วมมือที่ยั่งยืน: ขับเคลื่อนทั้งซัพพลายเชน

ไลอ้อนไม่ได้ดำเนินการเพียงลำพัง แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้ซัพพลายเออร์ปรับตัว โดยการให้ความรู้ แบ่งปันข้อมูล และร่วมขอใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อมอย่าง “ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์” และ “ฉลากลดคาร์บอน” ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 11 SKU ที่ได้รับการรับรอง และมีแผนเพิ่มเป็นกว่า 20 SKU ภายในปีนี้

ก้าวต่อไป: LION เดินหน้าสู่การเป็นองค์กร Net Zero อย่างแท้จริง

“เราไม่เพียงแค่ลดคาร์บอน แต่กำลังสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับสิ่งแวดล้อมและสังคม ไลอ้อนกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลแฟคทอรี่ ที่ผสานเทคโนโลยีสะอาด เศรษฐกิจหมุนเวียน และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม” — ดร.กิตติวัตร โสมวดี

ด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม วิสัยทัศน์ระยะยาว และความเชื่อมั่นในพลังของการเปลี่ยนแปลง ไลอ้อน ประเทศไทย กำลังก้าวสู่การเป็นต้นแบบของ “ธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” อย่างยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค