โอสถสภา ปักหมุดเส้นทางสู่อนาคตยั่งยืน เดินหน้ากลยุทธ์ ESG ระยะใหม่

โอสถสภา เดินหน้าสู่อนาคตยั่งยืน เปิดวิสัยทัศน์ ESG 2573 มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ยกระดับบรรจุภัณฑ์สู่การรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2030 พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย พัฒนาคนในองค์กร และผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

วรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP กล่าวว่า โอสถสภา ดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งแต่ปี 2562 โอสถสภาวางกรอบความยั่งยืน 5 ด้าน และได้บรรลุเป้าหมายระยะแรกภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่ผลลัพธ์” ไม่ว่าจะเป็นการปรับสูตรเครื่องดื่มให้ ลดน้ำตาลกว่า 50% แต่ยังคงอร่อยและมีคุณประโยชน์ ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้าน Consumer Health & Well-Being ที่ใส่ใจสุขภาพผู้บริโภคอย่างแท้จริง

ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ลดภาระสิ่งแวดล้อม

โอสถสภาเดินหน้าสู่เป้าหมาย บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน 100% ในปี 2030 โดยออกแบบให้รีไซเคิล ใช้ซ้ำ หรือย่อยสลายได้ เช่น ลดน้ำหนักขวดแก้วเครื่องดื่ม M-150 ลง 15% ยกเลิกการใช้พลาสติก PVC ทั้งหมดภายในปี 2025

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งจากการผลิตและขนส่ง

เติบโตไปกับชุมชนและคู่ค้า

โอสถสภาให้ความสำคัญกับ เกษตรกรรายย่อยและคู่ค้า กว่า 1,000 ราย สนับสนุนการทำเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ลดการใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น และส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค สร้างความเข้มแข็งให้ห่วงโซ่อุปทานในระยะยาว

Water Management: ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตได้แล้วกว่า 35% ต่อรายได้

Energy & Climate Management: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 44.33% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 3 เท่า

ความทุ่มเทนี้ทำให้โอสถสภาคว้ารางวัล Industry Mover จาก S&P Global สองปีซ้อน (2566–2567) และเป็นบริษัทเดียวในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มโลกที่ได้รับรางวัลในปี 2567

แผน ESG 2573: พัฒนาคน – จัดการขยะ – เดินหน้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน

ก้าวต่อไปของโอสถสภาคือการขยายกรอบความยั่งยืน ครอบคลุมทั้ง 7 ด้าน โดยเน้นเพิ่ม