"โบลท์"เผย แพลตฟอร์มดิจิทัล ยกระดับอาชีพขับรถ ได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้น

ผลสำรวจจากโบลท์ (Bolt) และ Kantar Insights Thailand เผยภาพใหม่ของ “อาชีพขับรถผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล” ที่สะท้อนความหลากหลาย ยืดหยุ่น และมีคุณค่าในสังคมไทยยุคปัจจุบัน

อาชีพที่เคยถูกมองข้าม กำลังได้รับการยอมรับจากคนทุกช่วงวัย

ธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ที่เรียกกันว่า เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม (Platform economy) หรือ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital platform) หรือเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing economy) หรือ เศรษฐกิจชั่วคราว (Gig economy) ถูกจับคู่ความต้องการของผู้เสนอขายสินค้าและบริการกับความต้องการเสนอซื้อสินค้าหรือบริการโดยผ่านกลไกดิจิทัล ซึ่งเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม และ Smartphone ที่มีแอพพลิเคชั่นของแพลตฟอร์มให้บริการ

ข้อดีของบริการลักษณะนี้ คือความสะดวกสบายของผู้บริโภค ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าและบริการในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยคุณภาพและราคาที่ยอมรับได้ รวมทั้งการลดปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่ การเดินทาง รถติด ปัญหาบริการแท็กซี่ ปัญหารถโรงแรมที่ค่อนข้างแพง ปัญหาที่จอดรถ และอีกนานัปปัญหาแรงงานที่เกิดจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ เป็นแรงงานระดับกลาง และ ระดับล่าง ที่เข้ามาเป็นผู้ให้บริการ ทั้งขับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ บริการโรงแรม ทำความสะอาด ซึ่งส่วนใหญ่ทางแพลตฟอร์มจะเปิดโอกาสให้แรงงานเข้าร่วมในการให้บริการโดยไม่จำกัดหากมีคุณสมบัติตามที่แพลตฟอร์มกำหนด แรงงานสามารถทำงานได้หลายแห่งหลายประเภท

ปัจจุบันแรงงานกลายเป็นยอมรับในตลาดแรงงานมากขึ้น โดยดูได้จากผลสำรวจระดับประเทศโดยโบลท์ ร่วมกับบริษัทวิจัยชั้นนำ Kantar Insights Thailand พบว่า

กว่า 97% ของผู้ขับขี่รู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับจากสังคม

ผู้ขับขี่มีภูมิหลังหลากหลาย ไม่จำกัดแค่คนรุ่นใหม่

หลายคนมีประสบการณ์การทำงานหรือทักษะเฉพาะทางมาก่อน

แม้จะยังมีภาพจำที่สังคมบางส่วนมองว่า “เหมาะกับคนรุ่นใหม่” หรือ “เหมาะกับผู้ไม่มีทักษะ” แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม — หลายคนอายุเกิน 40 ปี และมีประสบการณ์จากอาชีพก่อนหน้า อาชีพนี้จึงไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย แต่เป็น “อาชีพที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่” ไปเสียแล้ว

ความยืดหยุ่นและอิสระในการใช้ชีวิต

เบื้องหลังการเปลี่ยนภาพลักษณ์นี้ คือ บทบาทของแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ไม่เพียงเป็นเครื่องมือหางาน แต่ยังสร้าง “ระบบสนับสนุน” ให้ผู้ขับมีโครงสร้างการทำงานที่ชัดเจน เช่น ระบบการจัดตารางงาน, การประเมินผลจากผู้โดยสาร, ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน ไปจนถึงการอบรมด้านความปลอดภัยและบริการ ซึ่งช่วยให้คนขับสามารถพัฒนาอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ

ณัฐดนย์ สุขศิริฐานันท์ ผู้จัดการทั่วไป Bolt ประเทศไทย ระบุว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลไม่ได้เป็นแค่ตัวกลางเรียกรถ แต่เป็นโครงสร้างที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนขับ และสร้างความน่าเชื่อถือในอาชีพนี้ ขณะเดียวกันเรากำลังเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อผลักดันกฎระเบียบที่ทันสมัย และเอื้อต่อรูปแบบการทำงานยุคใหม่

นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นยังเป็นเหตุผลหลักที่ดึงดูดให้ผู้คนเลือกทำงานในอาชีพนี้ โดยผลสำรวจพบว่า:

99% ของคนขับ รู้สึกว่าสามารถจัดสรรเวลาให้กับครอบครัวหรือเรื่องส่วนตัวได้ดีขึ้น
88% ระบุว่า พวกเขาควบคุมเวลาทำงานของตนเองได้
แรงจูงใจหลัก ได้แก่ การหารายได้เสริม (74%), ความต้องการเป็นเจ้านายตัวเอง (53%), และชั่วโมงทำงานที่ยืดหยุ่น (51%)

ในช่วงที่ภาครัฐ โดยคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETC) กำลังพัฒนาระเบียบใหม่สำหรับบริการ ride-hailing โบลท์เน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การควบคุม แต่ต้องเป็นการสนับสนุนศักยภาพและวิถีชีวิตของผู้ขับ ที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง