เต็ดตรา แพ้ค ชวนปลดล็อกการเติบโตแห่งอนาคตที่ THAIFEX – Anuga Asia 2025 กับนวัตกรรมอาหาร-เครื่องดื่มตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
กลับมาอีกครั้งกับงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 เวทีแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มสุดยิ่งใหญ่แห่งเอเชีย ที่ปีนี้เต็ดตรา แพ้ค (Tetra Pak) โดย สุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ขนทัพนวัตกรรมและโซลูชันล้ำสมัยมานำเสนอภายใต้ธีม “Unlocking Growth” หรือ “ปลดล็อกการเติบโต” ตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์อาหารที่ขับเคลื่อนอนาคตอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
พบกับไฮไลต์สุดล้ำจาก 3 โซนหลัก ที่ถอดรหัสกลยุทธ์การเติบโตผ่านนวัตกรรม ประสิทธิภาพ และการสร้างความแตกต่าง

1. Innovate to Elevate – สร้างสรรค์เพื่อยกระดับ
โซนนี้โชว์ศักยภาพของเต็ดตรา แพ้คในการร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ ตั้งแต่การเข้าใจอินไซต์ผู้บริโภคจนถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงใจตลาด ผ่านเครื่องมืออย่าง Trendipedia และ Demand Space ที่เปลี่ยนข้อมูลเป็นไอเดียธุรกิจที่จับต้องได้จริง
พร้อมเปิดประสบการณ์จริงที่ Tasting Bar ชิมของจริงจากบรรจุภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้ค ทั้งกาแฟพร้อมดื่ม อาหารเสริมทางโภชนาการ และอาหารพร้อมทาน ตอบทุกเทรนด์ฮิตของยุค

2. Differentiate to Stand Out – แตกต่างเพื่อสร้างจุดเด่น
รู้หรือไม่? บรรจุภัณฑ์ก็สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์โดดเด่นไม่เหมือนใคร เต็ดตรา แพ้ค ขนทัพนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์แบบปลอดเชื้อ เช่น Tetra Prisma® Aseptic และ Tetra Recart® ที่ทั้งเบา สะดวก และรักษ์โลก พร้อมไฮไลต์บรรจุภัณฑ์จากวัสดุชีวภาพ ช่วยแบรนด์ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมแบบไม่ต้องประนีประนอมเรื่องดีไซน์หรือฟังก์ชัน
เต็ดตร้า รีคาส (Tetra Recart) คือบรรจุภัณฑ์รุ่นหนึ่งของ Tetra Pak ที่ออกแบบมาเพื่อใช้แทนกระป๋องเหล็กหรือขวดแก้วในการบรรจุอาหาร เช่น อาหารสัตว์ อาหารพร้อมรับประทาน ซุป ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง (retortable foods) ซึ่งปีนี้จะได้เห็นสินค้าใหม่ๆ อาทิ กะทิ และอาหารสัตว์ ที่เลือกใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมี อาหารสำหรับเด็ก ซุปและซอสมะเขือเทศ ถั่วอบ กระบวนการปรุงสำเร็จพร้อมรับประทาน ที่เหมาะกับการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเช่นกัน
3. Optimise for Efficiency – เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์สูงสุด
เทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ และระบบดิจิทัลของเต็ดตรา แพ้คช่วยให้โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และลดของเสียลง ด้วยระบบอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ที่ช่วยควบคุมคุณภาพ พร้อมลดต้นทุนและการใช้พลังงาน
4. End-to-End Food Solutions – โซลูชันแบบครบวงจร
พบโซลูชันเครื่องจักรและเทคโนโลยีแปรรูปอาหาร เช่น ระบบสำหรับนม นมพืช น้ำผลไม้ ไอศกรีม และอาหารพร้อมรับประทาน พร้อมนำเสนอ ส่วนผสม (ingredient solutions) ที่ลูกค้าสามารถชิมและปรับสูตรเองได้ทันที

เทรนด์อนาคตแพ็คเกจจิ้ง
เต็ดตรา แพ้ค (Tetra Pak) มีความเชี่ยวชาญด้านโซลูชันการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะในรูปแบบบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษปลอดเชื้อ (aseptic carton packaging) เช่น กล่องนม กล่องน้ำผลไม้ ฯลฯ จุดเด่นของเต็ดตรา แพ้ค คือสามารถรักษาคุณภาพของอาหารหรือเครื่องดื่มได้ยาวนานโดยไม่ต้องใช้สารกันบูดหรือการแช่เย็น ทั้งยังคำนึงถึงความยั่งยืนผ่านการใช้วัสดุจากพืชและวัสดุรีไซเคิล
สำหรับ เต็ดตรา แพ้ค ปีนี้ถือจะให้ความสำคัญกับกลุ่มโปรดักส์ กาแฟพร้อมดื่ม เครื่อมดื่มโปรตีนสูง อาหารและเครื่องดื่มที่มีนวัตกรรมให้คุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งขยายงานในส่วนของวัตดุดิบ หรือส่วนผสม ที่นำเสนอกับลูกค้าในรูปแบบของโซลูชั่นมากขึ้น
การลงทุนต่อเนื่องของเต็ดตรา แพ้ค
เต็ดตรา แพ้คยังเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมี ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ (CIC) ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้าทั่วเอเชียแปซิฟิก และเตรียมเปิด ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ (PDC) ที่จังหวัดระยองในปี 2569 เพื่อวิจัยสูตรใหม่ ทดสอบกระบวนการผลิต และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการส่งออก
ล่าสุด เต็ดตรา แพ้ค ได้เปิด Customer Innovation Centre (CIC) หรือ ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า เป็นพื้นที่ที่ เต็ดตรา แพ้ค จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมมือกับลูกค้าในการพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมีเป้าหมายในการวิเคราะห์เทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภค ทดลองสูตรอาหารและเครื่องดื่ม ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ทดสอบกระบวนการผลิตก่อนออกสู่ตลาดจริง

CIC ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สำหรับการสนับสนุนแบรนด์และผู้ผลิตในด้านนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างครบวงจร โดยขณะนี้ เต็ดตร้า แพ้ค ยังเตรียมเปิด ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development Centre – PDC) ในปี 2569 ศูนย์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของเต็ดตรา แพ้คในประเทศไทย โดย PDC ที่กำลังจะเปิดในจังหวัดระยอง มีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางเพื่อ
- วิจัยและพัฒนา (R&D) ด้านกระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม
- ทดสอบและปรับแต่งสูตรใหม่ ๆ ให้เหมาะกับตลาดในภูมิภาค
- สนับสนุนลูกค้าในการปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
เมื่อเปิดใช้งานในปี 2569 จะช่วย ยกระดับศักยภาพของไทยในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารในเอเชีย และสนับสนุนบทบาทของประเทศในฐานะ “ครัวของโลก” ได้อย่างเป็นรูปธรรม

