อู่ฮั่น เมืองศูนย์กลางที่เติบโตบนรากฐานสีเขียว

อู่ฮั่น กับบทบาทเมืองด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้นแบบเมืองออนุรักา์พท้นที่ชุ่มน้ำ ผสานแม่น้ำกว่า 165 สาย ทะเลสาบ 166 แห่ง สู่ระบบนิเวสน้ำขนาดใหญ่

ภาพจำ เมือง อู่ฮั่น ของจีน สำหรับคนไทย คือแหล่งที่มาของโรระบาดร้ายโควิด -19 เมื่อหลายปีก่อน หากแต่ในความเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำธรรมชาติ จริงๆ อู่ฮั่น คือเมื่อที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวอย่างของการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ที่พัมนาสู่การเป็นระบบนิเวศน้ำขนาดใหญ่

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา เมืองอู่ฮั่นจัดงานสัมมนา “Green Foundations for a Hub City” เน้นย้ำบทบาทเมืองในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดการและดูแลเครือข่ายแม่น้ำและทะเลสาบอันอุดมสมบูรณ์

หนึ่งในไฮไลต์ของงาน คือคำกล่าวของ เจย์ อัลเดอร์ส รองเลขาธิการอนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) ที่ยกย่องอู่ฮั่นว่าเป็นตัวอย่างระดับโลกด้านการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ จากการเชื่อมโยงแม่น้ำกว่า 165 สาย และทะเลสาบ 166 แห่ง ให้เป็นระบบนิเวศน้ำขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์และมีชีวิตชีวา

ภาพบรรยากาศภายนอกห้องประชุมสะท้อนความผูกพันของเมืองกับสายน้ำได้อย่างชัดเจน—ตั้งแต่ชายหาดทะเลสาบตะวันออกที่เปล่งประกายราวเงินยามน้ำหลาก การแข่งขันวอลเลย์บอลริมชายหาด ไปจนถึงป่าใต้น้ำที่ทะเลสาบจางตู กลายเป็นฉากธรรมชาติที่ผสานวิถีชีวิตคนเมืองอย่างกลมกลืน

เมืองกลางแผ่นดินใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ริมทะเล

อู่ฮั่นถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งแม่น้ำและทะเลสาบ” โดยมีพื้นที่น้ำครอบคลุมถึง หนึ่งในสี่ของพื้นที่เมืองทั้งหมด ภูมิทัศน์นี้ทำให้เกิดความรู้สึกกว้างใหญ่และเปิดโล่งไม่ต่างจากเมืองชายฝั่ง ทั้งแม่น้ำที่รวมตัวกันจนกลายเป็นทะเลสาบกว้างในฤดูน้ำหลาก พื้นที่ชุ่มน้ำที่เขียวชอุ่มราวคลื่นมรกต ชายหาดทรายทองที่ชวนให้นึกถึงทะเล และเส้นขอบฟ้าที่เรียงรายด้วยตึกสูงดุจเกลียวคลื่น

เมื่อฤดูร้อนมาถึง ระดับน้ำที่สูงขึ้นทำให้แม่น้ำและทะเลสาบกว้างไกลสุดสายตา ท้องฟ้าสีครามสะท้อนกับผิวน้ำระยิบระยับราวกับวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะที่ชายหาดทะเลสาบตะวันออกซึ่งนำเข้าทรายละเอียดมาใช้จัดแข่งวอลเลย์บอลใต้ร่มต้นมะพร้าว หรือ “Moonlight Bay” ที่มีบาร์ลอยน้ำเสิร์ฟค็อกเทลลิ้นจี่-มะพร้าวยามพระอาทิตย์ตก