
กสิกรไทย จากการเงินสีเขียวสู่คาร์บอนเครดิตเพื่อชุมชน นำแนวคิด “เศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน” สร้างสมดุลระหว่างพลังงานสะอาด การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเผยแนวทางปฏิบัติและผลลัพธ์ที่จับต้องได้จากโครงการเพื่อความยั่งยืน
ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งวิกฤตภูมิอากาศ กฎระเบียบสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ได้เสนอแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ว่า “เศรษฐกิจคือเครื่องมือ” ที่สามารถขับเคลื่อนทั้งพลังงาน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมไปสู่สมดุลและความยั่งยืน หากมีการออกแบบระบบการเงินและการลงทุนที่ถูกทิศทาง

เศรษฐกิจในฐานะเครื่องมือสู่การเปลี่ยนผ่านสีเขียว
ดร. กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เสนอว่า การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมไม่ควรถูกมองเพียงในฐานะ “ต้นทุน” แต่ต้องถูกออกแบบให้เป็น โอกาสทางเศรษฐกิจ ผ่านการบูรณาการการเงิน การลงทุน และนวัตกรรม โดยชี้ให้เห็น 3 มิติหลัก ได้แก่:
- พลังงานสะอาดและคาร์บอนต่ำ
- สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการติดตั้งพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์รูฟท็อป ฟาร์มกังหันลม และโครงการชีวมวล
- พัฒนากองทุนและตราสารหนี้สีเขียว (Green Bonds) เพื่อดึงดูดการลงทุนในพลังงานสะอาด
- ส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในระบบที่โปร่งใสและเป็นธรรม
- การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
- ขยายการเข้าถึงสินเชื่อและการเงินดิจิทัลสำหรับเกษตรกรรายย่อยและผู้ประกอบการ SME
- สนับสนุนเกษตรอินทรีย์และการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลผลิตท้องถิ่น
- พัฒนาองค์ความรู้ด้านการตลาดดิจิทัล เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าสู่ตลาดโลก

- สิ่งแวดล้อมและความสมดุลทางธรรมชาติ
- ผลักดันโครงการอนุรักษ์ป่าและฟื้นฟูระบบนิเวศ โดยใช้ คาร์บอนเครดิต เป็นกลไกสร้างรายได้ให้กับชุมชน
- บูรณาการ ESG (Environmental, Social, Governance) เข้ากับกระบวนการปล่อยสินเชื่อและการลงทุน
- สร้างระบบตรวจวัดและรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ผลลัพธ์และความสำเร็จที่จับต้องได้
การดำเนินงานด้านความยั่งยืนของกสิกรไทยเริ่มปรากฏผลลัพธ์ในหลายมิติ เช่น
การเงินสีเขียวเติบโตต่อเนื่อง: มูลค่าสินเชื่อสีเขียวของธนาคารขยายตัวปีต่อปี สะท้อนความต้องการของธุรกิจที่พร้อมปรับตัวสู่การผลิตและการดำเนินงานที่ลดการปล่อยคาร์บอน
เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็งขึ้น: เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเพิ่มรายได้จากทั้งการผลิตและการขายคาร์บอนเครดิต

สิ่งแวดล้อมได้รับการฟื้นฟู: โครงการร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนสามารถกักเก็บคาร์บอนได้ในระดับที่สร้างผลเชิงบวกต่อเป้าหมาย Net Zero 2050
วิเคราะห์แนวโน้มอนาคต
ดร. กรินทร์ มองว่า ความยั่งยืนจะเป็น “ข้อบังคับเชิงโครงสร้าง” จากแรงกดดันทั้งด้านกฎระเบียบระหว่างประเทศ (เช่น CBAM, EUDR ของยุโรป) และความต้องการของผู้บริโภคที่ให้คุณค่ากับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ด้วยเหตุนี้ การใช้เศรษฐกิจเป็นเครื่องมือ จึงไม่เพียงช่วยให้ไทยสามารถรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก
