
จากสินค้าสู่พันธสัญญาสิ่งแวดล้อม “ไลอ้อน ประเทศไทย” ปรับกลยุทธ์สู่การลดคาร์บอนฟุตพริ้นจริงจัง ยกระดับผลิตภัณฑ์รักษ์โลกด้วยฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
Climate Change: จากโจทย์สิ่งแวดล้อมสู่โจทย์ธุรกิจ
“โลกร้อน” ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือโจทย์ใหญ่ของภาคธุรกิจทั่วโลก หลายองค์กรเริ่มปรับกลยุทธ์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการลด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญสู่ความยั่งยืน

หนึ่งในองค์กรที่เดินหน้าสู่เส้นทางนี้อย่างชัดเจนคือ ไลอ้อน (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 56 ปี ภายใต้หลัก “ธุรกิจคู่คุณธรรม” ล่าสุดบริษัทคว้า ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lion Hygienic ตอกย้ำว่าไลอ้อนไม่ได้ทำเพียง “การขายสินค้า” แต่กำลังขับเคลื่อนทั้งอุตสาหกรรมไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
จากการผลิต สู่การสร้างคุณค่าทางสังคม
เส้นทางรักษ์โลกของไลอ้อนเริ่มตั้งแต่ปี 2012 ด้วยการประเมิน คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ น้ำยาล้างจานอย่างจริงจัง พร้อมปรับทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การใช้พลังงาน ไปจนถึงการจัดการทรัพยากร
ดร. กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิต บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“การดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เพียงหน้าที่ แต่คือการลงทุนระยะยาวเพื่อสังคมและธุรกิจ”

ผลลัพธ์คือ น้ำยาล้างจานของไลอ้อนสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 20% ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle) เกินกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เพียง 2% โดยเฉพาะช่วงปี 2021–2024 ที่มีการปรับสูตรและเลือกใช้ วัตถุดิบจากธรรมชาติ ตัวเลขการลดคาร์บอนยิ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ถุงเติม” = นวัตกรรมเล็กที่สร้างผลลัพธ์ใหญ่
อีกหนึ่งกลยุทธ์รักษ์โลกที่ไลอ้อนทำมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2010 คือ ถุงเติมรีฟิล (Refill Pack) ซึ่งช่วยลดการใช้พลาสติกได้เฉลี่ย 5–10% ต่อปี ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กว่า 17 SKUs เช่น ไลปอนเอฟ สูตรอนามัย, ไลปอนเอฟ สูตรมะกรูด, ไลปอนเอฟ เจแปนนีสพีช และไลปอน กลิ่นชามะนาว ที่ได้รับ ฉลากลดโลกร้อน
และที่สำคัญ ไลอ้อนคือ รายแรกในประเทศไทย ที่คว้าฉลากนี้ในกลุ่มน้ำยาล้างจานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งไลอ้อนมองว่า นี่คือพันธสัญญาสู่ Net Zero

อำนาจ ศรีตระการนนท์ ผู้จัดการแบรนด์ไลปอนเอฟ กล่าวชัดว่า
“รางวัลและการรับรองฉลากลดโลกร้อนไม่ใช่เพียงเกียรติยศ แต่คือความรับผิดชอบที่จับต้องได้”
ตัวเลขการลดคาร์บอนจริงราว 20% ของไลอ้อน สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero 2050 ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่ทั่วโลกต้องร่วมกันขับเคลื่อน
ผู้บริโภคยุคใหม่ = พลังผลักดันแบรนด์รักษ์โลก
เทรนด์ผู้บริโภคชัดเจนว่า คนรุ่นใหม่เลือกแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มากขึ้น การมี “ฉลากลดโลกร้อน” กลายเป็นคุณค่าที่เสริมเหนือราคาและคุณภาพ

แม้ยอดขายกลุ่มสินค้าคาร์บอนต่ำไม่ได้พุ่งแรง แต่ยังคงครองสัดส่วนอันดับหนึ่งของบริษัท และได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง ไลอ้อนยังเดินหน้าจับมือกับคู่ค้ารายใหญ่ เช่น Lotus’s, Makro, CPALL, TOPs, The Mall Group และเครือโรงแรมชั้นนำ เพื่อกระจายสินค้าคาร์บอนต่ำให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ
ก้าวต่อไป ทำให้ผู้บริโภคเห็นผลลัพธ์จากการเลือกซื้อ
เป้าหมายต่อไปของไลอ้อนคือการสื่อสารตรงใจผู้บริโภค ว่า
“ทุกครั้งที่เลือกซื้อสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ = กำลังช่วยลดคาร์บอน และร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน”
พร้อมเดินหน้ายื่นขอฉลากสำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อขยายผลการลดคาร์บอนให้กว้างขึ้น
การได้รับ “ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์” ไม่ได้เป็นเพียงตราสัญลักษณ์ แต่คือการยืนยันว่าไลอ้อนนำกลยุทธ์ความยั่งยืนมาใช้จริง ครอบคลุมตั้งแต่ การออกแบบผลิตภัณฑ์ วัสดุที่ใช้ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการตลาดและการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภ
